ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รายการฟุตบอลระดับภูมิภาคของโซนอาเซียน คือศึกฟุตบอลที่ทุกชาติในย่านนี้มองว่ามันคือศึกแห่งศักดิ์ศรีที่พร้อมเดินหน้าล่าความสำเร็จ อิทธิพลของการแข่งขันมักนำไปในการมีส่วนร่วมของแฟนฟุตบอลของแต่ละชาติ แน่นอนว่าทีมชาติไทย ที่ถือว่าเป็นทีมที่คว้าแชมป์มากที่สุดในรายการนี้ ก่อนหน้านี้คว้าแชมป์มาแล้ว 5 สมัย จึงถูกมองว่าเป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุดทีมหนึ่งเมื่อทัวร์นาเมนต์จัดการแข่งขันเริ่มต้นขึ้นในทุกๆครั้ง เช่นเดียวกันกับการแข่งขันในครั้งนี้ที่ประเทศสิงคโปร์
แต่ด้วยการแข่งขันที่หลายทีมต่างก็คาดหวังในสิ่งที่เกิดขึ้นเรื่องของเป้าหมายตัวเองกุนซือของทุกชาติที่ลงสนามพบกับคู่แข่งต่างแสดงความมั่นอกมั่นใจ ในการแข่งขันฟุตบอลเอเอฟเอฟ แชมป์เปี้ยนชิพ 2020 หนนี้ เพราะการเป็นผู้นำก็จะแสดงออกมาถึงเป้าหมาย ถ้าดูจากกระแสที่ทีมคู่แข่งที่พบกับไทยแล้วกุนซือแต่ละรายหรือผู้ที่เกี่ยวข้องมักจะแสดงความมั่นอกมั่นใจว่าจะผ่านไทยได้ นี่คือวาทกรรมความหวังก่อนเกมที่เกิดขึ้นในทัวร์นาเมนต์นี้และสิ่งที่ตามมาของคู่แข่งที่พบกับทีมชาติไทย

อองตวน เฮย์ (ผู้ฝึกสอนทีมชาติเมียนมา): บทสัมภาษณ์ 10 ธ.ค.64
ก่อนเกม: “เรารู้ว่าทีมชาติไทยมีความสามารถเฉพาะตัวและมีทีมที่ดี ผมเห็นข่าวในสื่อไทยมองกันไปถึงรอบชิงชนะเลิศกับเวียดนาม แต่ได้ดูเกมแรกแล้วเชื่อว่ามีทีมอื่นที่ดีกว่าไทย เราไม่เคยเอาชนะไทยได้เลยในการเจอกัน 13 ครั้ง ดังนั้นความกดดันทั้งหมดอยู่ที่ทีมไทย นัดนี้จะเป็นเกมที่วัดกันระหว่างทีมที่มีทีมเวิร์กที่ดี และทีมที่มีความสามารถเฉพาะตัวที่ดี แล้วมาดูกันว่าผลสุดท้ายจะออกมาอย่างไร”

หลังเกม:เมียนมา 0-4 ไทย

สจ๊วต ฮอลล์ (กุนซือขัพตาทัพทีมชาติฟิลิปปินส์) : บทสัมภาษณ์ 13 ธ.ค.64
ก่อนเกม: “หลังจากการพ่ายแพ้ในเกมแรกกับสิงคโปร์ เป้าหมายของเราชัดเจน เราต้องชนะ 3 เกม (จากโปรแกรมรอบแรกทั้งหมด) และไม่สามารถพึ่งพาผลงานของทีมอื่นๆ ได้ 2 นัดหลังจากนี้จะเริ่มต้นด้วยเกมใหญ่กับไทย ที่อุดมไปด้วยนักเตะชั้นดี โดยเฉพาะ 2 แข้งจากเจลีก อย่าง ธีราทร บุญมาทัน และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ด้วยชัยชนะ 2 นัดของไทยทำให้ทีมกลายเป็นตัวเต็งอย่างแน่นอน ซึ่งก็มีข้อมูลจำนวนหนึ่งจาก สก็อตต์ คูเปอร์ เกี่ยวกับฟุตบอลไทยเช่นกัน พวกเขามีผู้เล่นที่ดีที่สุดที่นี่ มันจะเป็นการแข่งขันสูงและมันจะเป็นเกมที่ยาก แต่เราพร้อมแล้ว”

หลังเกม:ฟิลิปปินส์ 1-2 ไทย

ชาเคียร์ ฮัมซาห์ (นักเตะทีมชาติสิงคโปร์):บทสัมภาษณ์ 15 ธ.ค.64

ก่อนเกม: เราทุกคนต่างตั้งตารอคอยเกมนี้ และพวกเราทุกคนต้องการเล่นกับทีมชาติไทยจริงๆ ผมรู้ว่าเราไม่ได้เอาชนะพวกเขามาสองสามปีแล้ว แต่ถ้าเรารวมเป็นหนึ่งเดียว เราก็สามารถเอาชนะไทยได้

หลังเกม:สิงคโปร์ 0-2 ไทย

สตีฟ ดาร์บี้ (อดีตผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ 2009):บทสัมภาษณ์ 20 ธ.ค.64
ก่อนเกม: ผมรู้สึกค่อนข้างแปลกใจ และผิดหวังเล็กน้อย เมื่อเวียดนามกับไทยจะพบกันในรอบรองชนะเลิศ ซึ่งจริงๆ อยากเห็นทั้งคู่ลงเตะในรอบชิงชนะเลิศมากกว่า เพราะทั้งสองทีมเป็นตัวแทนที่มีผลงานดีที่สุดของทัวร์นาเมนต์ในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามผมมองว่าโอกาสที่ทั้งคู่จะเป็นผู้ชนะยัง 50-50 แต่หากเวียดนามต้องการที่จะป้องกันแชมป์ ยังไงก็ต้องเจอไทย ไม่รอบรองชนะเลิศก็รอบชิงชนะเลิศอยู่ดี ในส่วนเรื่องของแท็กติกของโค้ช ปาร์ค ฮัง-ซอ ผมคงวิจารณ์มากไม่ได้ แต่เขาสามารถพาทีมไม่เสียประตูให้ทีมใดเลยในรอบแบ่งกลุ่ม อีกทั้งเวียดนามอยู่ในกลุ่มที่หนักกว่าทีมชาติไทยอีกด้วย โดยส่วนตัวมองว่าทีมชาติไทยดูจะอยู่ในกลุ่มที่ง่ายกว่าพอสมควร

หลังเกม:รอลุ้นผลวันที่ 23,26 ธ.ค.64

Facebook Comments Box

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here