“เรือใบสีฟ้า” แชมป์ 6 สมัยในรายการนี้เปิดหัวในรอบสาม เอฟเอ คัพ ได้อย่างสวยหรูแม้จะไร้ เป๊ป คุมทัพข้างสนามก่อนบุกไปอัด สวินดอน ทาวน์ ทีมจากลีกทูแบบไม่ยาก 4-1 ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 4 ต่อไป เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา
สนาม : เดอะ เคาน์ตี้ กราวน์
ฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ 3 เมื่อวันศุกร์ที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา สวินดอน ทาวน์ ทีมจากลีก ทู รับการมาเยือนของจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เจ้าบ้านส่ง ไทรีซ ซิมพ์สัน และ แฮร์รี่ แม็คเคอร์ดี้ เป็นคู่ความหวังไล่ล่าตาข่าย ส่วน แมนฯ ซิตี้ เกมนี้ใช้ โรดอลโฟ่ บอร์เรล ทำหน้าที่คุมทีมข้างสนามแทน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และฆวนม่า ลีโย่ ที่ติดโควิด-19 ทำให้ต้องถูกกักตัว การจัดทัพของ “เรือใบสีฟ้า” ในเกมนี้ค่อนข้างจัดชุดใหญ่ทั้ง อิลคาย กุนโดกัน และ เควิน เดอ บรอยน์ ลงปั้นเกม โดยมีแนวรุกอย่าง กาเบรียล เชซุส, แบร์นาร์โด้ ซิลวา ยืนแดนหน้าร่วมกับไอ้หนู โคล พาล์มเมอร์ ดาวรุ่งของทีม
เปิดฉากมาไม่ถึงนาที ทีมเยือนได้ลุ้นก่อนเลยเมื่อไอ้หนู โคล พาล์มเมอร์ วัย 19 ปีโชว์สเต็ปดึงบอลหลบก่อนซัดด้วยซ้ายบอลไปแฉลบแนวรับเจ้าถิ่นออกหลัง อีก 3 นาทีถัดมา กานเซโล่ แตะบอลขาแข้งสวินดอนก่อนครอสเลียดไปในกรอบให้ แบร์นาร์โด้ ซัดตามน้ำพุ่งเฉียดคานออกไปนิดเดียว
กระทั่งนาที 14 แมนฯ ซิตี้ บุกมาชิงขึ้นนำ 1-0 จนได้ และเป็นไอ้หนู พาล์มเมอร์ ที่โชว์พลิ้วทางด้านขวาโยกเข้ากรอบก่อนล็อกด้วยซ้ายแล้วปาดเลียดด้วยขวาเข้าไปในกรอบ 6 หลาให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ยิงเข้าไปง่ายๆไม่เหลือ
จ่าฝูงพรีเมียร์ชิพครองเกมได้เหนือกว่าชัดเจนพับสนามไล่เพรสซิ่งบีบจนแข้งเจ้าถิ่นออกบอลกันผิดพลาด นาที 21 เกือบได้เม็ดสองหลัง เควิน เดอ บรอยน์ ซัดจ่อๆหน้ากรอบแต่เจ้าตัวยิงไปตรงตัว ลูวิส วอร์ด อย่างน่าเสียดาย
นาที 28 เจ้าถิ่นเล่นกันพลาดง่ายๆ หลังพยายามเล่นสั้นหน้าแดนตัวเองก่อนโดนซิตี้บีบเร็วจนพลาดไปเข้าทาง กาเบรียล เชซุส ชิ่งหนึ่งสองกับ เดอ บรอยน์ ก่อนบอลทะลุให้ เชซุส หลุดไปแปผ่านตัวนายด่านสวินดอนยิงเข้าไปนิ่มๆให้ “เรือใบสีฟ้า” นำห่าง 2-0
นาที 45 อาคันตุกะเกือบได้เม็ดสามหลัง กุนโดกัน ไหลสั้นๆนอกกรอบให้ ชูเอา กานเซโล่ ตะบันด้วยขวาบอลพุ่งแรงเข้าข้างตาข่าย
จบครึ่งแรก สวินดอน ทาวน์ ตามหลังแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-2
ครึ่งหลัง นาที 59 แฟนบอลเจ้าถิ่นต้องเงียบกริบหลัง “เรือใบสีฟ้า” นำห่างไปไกลถึง 3-0 จากจังหวะฟรีคิกนอกกรอบก่อนที อิลคาย กุนโดกัน จะโชว์ความเหนือปั่นฟรีคิกอ้อมกำแพง บอลโค้งก่อนเบียดเสาแรกเข้าไปอย่างสวยงาม
จากนั้น นาที 62 แมนซิตี้น่าจะได้เม็ดที่ 4 หลัง กาเบรียล เชซุส เรียกจุดโทษได้ก่อนลุกมาสังหารเอง ทว่ายิงไม่ดีซัดไปติดเซฟ ลูวิส วอร์ด นายด่านสวินเดอน อดเพิ่มสกอร์ของตัวเองในเกมนี้อย่างน่าเสียดาย
นาที 73 กุนโดกัน พลิกตัวในกรอบก่อนซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งกำลังจะเข้าโกลอยู่แล้ว แต่ยังโดน วอร์ด นายด่านเจ้าถิ่นพุ่งปัดออกไป
นาที 78 กองเชียร์สวินดอนได้เฮกระหึ่มลั่นสนามหลัง จอนนี่ วิลเลี่ยมส์ เลี้ยงบอลจี้เข้าใส่แนวรับซิตี้ก่อนไหลออกขวาให้ แฮร์รี่ แม็คเคอร์ดี้ ดาวยิงด้วยเก่งซัดเต็มเท้าพุ่งผ่านตัว แซค สเตฟเฟ่น เข้าไปให้เจ้าบ้านตีไข่แตกไล่มา 1-3
กระนั้น นาที 82 แมนฯซิตี้ มานำโด่งเป็น 4-1 จากจังหวะที่ แบร์นาร์โด้ ซัดไปติดบล็อคแนวรับเจ้าถิ่นก่อนกระเด้งมาเข้าทาง โคล พาล์มเมอร์ บรรจงปั่นด้วยซ้ายบอลพุ่งผ่านมือ ลูวิส วอร์ด เสียบสามเหลี่ยมเบียดเสาเข้าไป
นาที 90 ทีมเยือนเกือบบวกเม็ดที่ห้าเพิ่ม หลังโรดรี้วิ่งมาซัดจากแถวสองบอลพุ่งแรงไปกระทบคานอย่างจัง
จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมาเอาชนะ สวินดอน ทาวน์ 4-1 คว้าตั๋วผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 4 ต่อไป โดยการจับสลากประกบคู่รอบที่สี่นั้นจะจับขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 9 มกราคมนี้
รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
สวินดอน ทาวน์ (3-5-2) : ลูวิส วอร์ด – ร็อบ ฮันท์, เอกิ้น โอดิมาโย่ (โรโมนี่ย์ คริชโลว์-โนเบิล น.71) ,ดิออน คอยรอย – ไคน์ เคสเลอร์-เฮย์เด้น, จอร์แดน ไลเด้น, หลุยส์ รีด (ไรอัน อีสต์ น.87), เบน แกลดวิน (จอนนี่ วิลเลี่ยมส์ น.71), เอลลิส แลนโดโล่ – ไทรีซ ซิมพ์สัน (แฮร์รี่ พาร์สันส์ น.83), แฮร์รี่ แม็คเคอร์ดี้ (โมฮาเหม็ด ดาเบร น.87)
แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : แซค สเตฟเฟ่น – ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, เนธาน อาเก้ (ลุค เอ็มเบเต้ น.86), ชูเอา กานเซโล่ – อิลคาย กุนโดกัน (โรเมโอ ลาเวีย น.83), โรดรี้, แบร์นาร์โด้ ซิลวา – กาเบรียล เชซุส,เควิน เดอ บรอยน์ (เจมส์ แม็อาที่ย์ น.66), โคล พาล์มเมอร์ (คายกี้ ชากาส น.86)
