ถึงจะมีเซฟสวยๆ ตอนช่วงต้นเกม แต่หลังจากนั้นโดนทะลวงตาข่ายเป็นว่าเล่น และเสียท่าให้ ดิโอโก้ โชต้า ยิงแสกหน้าปิดท้าย
กองหลัง : ลูก้า ดีญ (เอฟเวอร์ตัน)
โดน โม ซาลาห์ เผาเครื่องวิ่งไล่ตามไม่ทันจนทำให้ทีมเสียประตูที่สอง
กองหลัง : คีแรน คล้าร์ก (นิวคาสเซิ่ล)
ไปทำฟาวล์ตัวสุดท้ายใส่ ติมู ปุกกี้ ทำให้เจ้าตัวโดนไล่ออกตั้งแต่นาทีที่ 9 โชคยังดีที่ นิวคาสเซิ่ล มีแต้มในเกมนี้
กองหลัง : เบน กร็อดฟรีย์ (เอฟเวอร์ตัน)
ทะเล่อทะล่าจนเสียการครอบครองบอล และยังหลุดตำแหน่งหลายครั้งในช่วงครึ่งหลัง
กองหลัง : มาร์ค เกฮี (คริสตัล พาเลซ)
พาเลซ มาปราชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ โดยจุดเริ่มต้นจากความไม่ระมัดระวังของเซนเตอร์แบ็กวัย 21 ปีรายนี้
กองหลัง : เซมัส โคลแมน (เอฟเวอร์ตัน)
เป็นอีกคนที่โดนพิษดาวเตะอียิปต์ ของ ลิเวอร์พูล เล่นงาน ซึ่ง โคลแมน ก่อความผิดพลาดทั้งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น
กองกลาง : ซาอูล ญีเกซ (เชลซี)
มิดฟิลด์สแปนิช ได้สตาร์ตตัวจริงเกมที่สองบนศึก พรีเมียร์ลีก และยังคงทำผลงานไม่ดีอีกครั้ง บ่งบอกว่าเขายังไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับบอล อังกฤษได้
กองกลาง : วิลฟรีด เอ็นดิดี้ (เลสเตอร์)
ถึงจะมีส่วนร่วมกับการตัดเกมคู่แข่งทุกพื้นที่ในสนาม แต่การผ่านบอลของเขาแย่มาก และเสียบอลให้กับ เซาธ์แฮมป์ตัน จนทำให้ทีมเกือบเสียประตู ขณะเดียวกัน เอ็นดิดี้ รอดตัวที่ไม่ทำเสียจุดโทษดีที่เป็นจังหวะล้ำหน้าของผู้เล่น “เดอะ เซนต์ส” ไปเสียก่อน
กองกลาง : โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ (อาร์เซน่อล)
ถูกเลือกลงตัวจริงแบบน่าประหลาดใจทั้งที่มีแข้งฟอร์มดีอย่าง แซมบี้ โลกงก้าหรือกระทั่ง เอนส์ลี่ย์ เมตแลนด์-ไนล์ส ที่ปกติเป็นช้อยส์ก่อนหน้าเขา แน่นอนเกมนี้ แข้งอียิปต์ ห่างไกลกับคำว่า “เล่นดี” มีข้อเสียคือการจ่ายบอลให้เพื่อนที่อยู่ด้านกว้าง
กองหน้า : ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง (อาร์เซน่อล)
ทำอะไรไม่ค่อยลงล็อกเท่าไหร่ แม้จะได้ยิง 5 ครั้งและตรงกรอบ 4 หน แต่บอลที่ออกจากเท้าไม่ได้เป็นยากต่อ ดาบิด เด เคอา เท่าไหร่
กองหน้า : ราอูล ฮิเมเนซ (วูล์ฟส์)
มีโอกาสสับไกถึง 4 ครั้ง แต่บอลไม่เข้ากรอบเลยสักหน หนำซ้ำจังหวะน่าได้ประตูที่เขายืนโล่ง ทว่า อดาม่า ตราโอเร่ ตัดบอลซัดบอลเองแล้วไปชนคานเข้าอย่างจัง