ถึงคราวที่หงส์หรือ “ลิเวอร์พูล” ต้องทบทวนการเล่นของตัวเอง หลังเจอกับราชันชุดขาวหรือ รีล มาดริด แต่ไม่สามารถทำประตูได้แม้แต่ประตูเดียว ทั้งที่เดิมเกมรุกเต็มที่ตลอดเวลาการเล่น แต่ก็ยังไม่สามารถตีไข่แตกทะลวงประตูไปได้แม้แต่ลูกเดียว โดยจบเหมเสมอที่ 0-0 และจากเหตุนี้ทำให้ ราชันชุดขาว มีคะแนนสะสมที่มากกว่าและผ่านเข้าชิงรอบรองชนะเลิศ ยูฟ้า แชมเปียนส์ ลีกไปทันทีในวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา
โดยนับเป็นแมตซ์สำคัญเมื่อหงส์แดง หรือ “ลิเวอร์พูล” เปิดบ้านปะทะ “ราชันชุดขาว” มีความได้เปรียบจากการที่ชนะมาก่อนนัดแรกที่ 3-1 ส่วนฝั่งเจ้าบ้านต้องทำประตูให้ได้ 2-0 เพื่อเข้ารอบ
โดยเปิดเกมส์มาก็ดุเดือดกันตั้งแต่นาทีที่ 2 เมื่อ ลิเวอร์ เร่งเกมส์ลุก หวิดทำประตูจากการที่ ซาดิโอ มาเน่ ตบเข้ากลางมาแบบโล่งๆ จากนั้นส่งบอลต่อให้กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แต่ติด ธิโบต์ คูร์ตัวส์ จึงทำให้ไม่สามารถได้ประตูไป
ต่อมานาทีที่ 19 มาดริดโต้เกมรุกอบากดุเดือด โดย คาเซมิโร่ แปะให้ วินิซิอุส จูเนียร์ บรรจงซัดเข้ากลางประตู แต่ อลิสสัน นายประตูมือทองเข้ามาเซฟได้อย่างหวุดหวิด
ต่อมานาทีที่ 41 ลิเวอร์พูล พลาดโอกาศครั้งใหญ่เมื่อ เคอร์ติส โจนส์ พยายามทำประตูแต่ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม พุ่งยิงแรงเกินไปทำให้ข้ามคาน จบครึ่งแรกเสมอ 0-0
ครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล ลุยแหลก นาที 56 เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ถวายบอลให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ คลุ้มคลั่งยิงแต่ข้ามคานอีก ข้ามมา นาที 68 บอลของเจ้าบ้าน นาธาเนียล ฟิลลิปส์ ขึ้นโหม่งแต่ก็ข้ามคานเหมือนกัน
นาที 81 มาดริด เกือบทำได้ คาริม เบนเซม่า ยืนรอบอลหน้าประตูแต่ขวิดบอลหลุดกรอบ สุดท้ายเวลาที่เหลือไม่มีใครยิงได้เลย จบเกม รีล มาดริด เข้ารอบรองชนะเลิศด้วยบุญเก่าจากนัดแรก ส่วน “หงส์แดง” จอดป้ายอดไปต่อ
