เตอร์ลิ่งปีกยอมถล่มแมนเชลเตอร์ซิตี้กลับมาร่วมทีมหลังจากไม่ได้เป็นตัวจริงในถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม
สเตอร์ลิ่งเป็นกำลังหลักให้กับ “เรือใบสีฟ้า” มาตลอดนับตั้งแต่ย้ายจากลิเวอร์พูลมาช่วงซัมเมอร์ปี2015 อย่างไรก็ตามฤดูกาลนี้เจ้าตัวสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกมลีคแค่2นัด เท่านั้นทำให้การข่าวเรื่องการย้ายทีม เฟอร์ดินานด์ มองว่า สเตอร์ลิง กำลังสูญเสียความมั่นใจจากการหลุดจากทีมตัวจริงของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ดังนั้นคงเป็นเรื่องดีไม่น้อย
เฟอร์ดินานด์เลยพูดว่า
“มันก็แค่เพราะเขาหลุดจากทีม เลยทำให้เขาสูญเสียความมั่นใจ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาเคยร้อนแรงมาก เด็กคนนี้เคยเป็นตัวทีเด็ดยามที่พวกเขา (แมนฯ ซิตี้) ต้องการประตู ซึ่งมันเป็นแบบนี้มาหลายปี แต่พอมาตอนนี้เขากลับไม่ค่อยได้เล่น ซึ่งผมเองก็งงเหมือนกัน ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ”
“นี่คือเรื่องของ เป๊ป และเขามักจะทำในสิ่งที่ถูกต้องมากกว่าผิดเสมอ แต่สำหรับ สเตอร์ลิง… มันจะต้องมีหลายสโมสรรอดูอยู่ ไหนๆ นายก็ช่วยทำให้พี่เห็นหน่อยสิว่า สถานการณ์นี้มันจะจบลงอย่างไร เพราะยังไงพี่ก็เอาใจช่วยนายอยู่แล้ว ถ้าผมเป็น ลิเวอร์พูล นะ ผมจะเซ็นสัญญากับ สเตอร์ลิง วันพรุ่งนี้เลย”
ประวัติสเตอร์ลิ่งกับลิเวอร์พุล
ฤดูการปี2011-2012 ผลงานระดับสโมสร
สเตอร์ลิงสร้างชื่อเสียงมากับลิเวอร์พูล โดยได้ลงเล่นเป็นตัวจริงกับลิเวอร์พูล ในปี ค.ศ. 2012 นัดที่เจอกับ วีแกนแอธเลติก โดยเล่นในตำแหน่งปีกซ้าย ด้วยอายุเพียงแค่ 17 ปี
ฤดูกาล 2012-13
ในเดือนสิงหาคม 2012 สเตอร์ลิง ได้ลงสนามในเกมยุโรปเป็นนัดแรก โดยลงมาเป็นตัวสำรองแทน โจ โคล ในยูฟ่ายูโรปาลีก รอบคัดเลือก ในนัดที่เอาชนะ โกเมล 1-0 ต่อมา ในวันที่ 26 สิงหาคม ค.ศ. 2012 พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2012–13 สเตอร์ลิง ได้ลงสนามเป็นตัวจริงใน ศึกบิ๊กแมตช์ กับ แมนเชสเตอร์ซิตี โดย สเตอร์ลิง โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมและติดทีมยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์ 6 หลังจากนั้น สเตอร์ลิง ก็ได้ลงสนามเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่ง สเตอร์ลิง ก็ทำประตูแรกให้กับ ลิเวอร์พูล ในนัดที่เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เรดดิง 1-0 ต่อมา ในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2012 สเตอร์ลิง ได้ตัดสินใจต่อสัญญากับ ลิเวอร์พูล ต่อมา ในวันที่ 2 มกราคม ค.ศ. 2013 สเตอร์ลิง ก็ทำประตูที่ 2 ให้กับ ลิเวอร์พูล ในนัดที่เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ
ฤดูกาล 2013-14
ในลีกคัพ รอบ 2 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูแรกให้ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นอตส์เคาน์ตี ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 4-2 ต่อมา ในวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 2013 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นอริชซิตี 5-1 ต่อมา ในวันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 2013 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่ไวต์ฮาร์ตเลน 5-0 ต่อมา ในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2013 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ คาร์ดิฟฟ์ซิตี 3-1
ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ทำ 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ อาร์เซนอล 5-1ต่อมา ในวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ลงมาเป็นตัวสำรองและได้ทำประตูที่ 6 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เซาแทมป์ตัน ที่เซนต์แมรีส์สเตเดียม 3-0 ต่อมา ในวันที่ 13 เมษายน ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ แมนเชสเตอร์ซิตี 1-0 ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะชนะไป 3-2 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำจ่าฝูงและลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกต่อไป ต่อมา ในวันที่ 20 เมษายน ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ทำ 2 ประตู และจ่ายให้เพื่อนยิง 1 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ นอริชซิตี ที่แคร์โรว์โรด 3-2 ต่อมา สเตอร์ลิง ได้ติด 1 ใน 6 เข้าชิงรางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ ในวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง คว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี จากการโหวตของแฟนๆ จากงานประกาศรางวัล Players’ Awards Dinner ปี 2014 โดยงานประกาศ
Home ฟุตบอลต่างประเทศ เฟอร์ดินานด์ตยอด เซนเตอร์แบ็กของแมนเชลเตอร์ยูไนเต็ด แนะลิเวอร์ให้คว้าตัว ราฮึม
เฟอร์ดินานด์ตยอด เซนเตอร์แบ็กของแมนเชลเตอร์ยูไนเต็ด แนะลิเวอร์ให้คว้าตัว ราฮึม
Facebook Comments Box