บทเรียนครั้งนี้ของเรือใบสีฟ้าที่ทำเอา เป๊ป กวาร์ดิโอ่ ถึงกับนั่งไม่ติด เพราะ ดอร์ทมุนด์ได้วางแนวรุกไว้อย่างแน่นหนาและควักเอาตัวเด็ดมาตั้งหน้าเสือกันไว้แบบไม่มีช่องให้ได้ทำประตู

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนามตัวจริง

แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1) : เอแดร์ซอน โมราเอส – ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอ๊าส, จอห์น สโตนส์, ชูเอา กานเซโล่ – โรดรี้ เอร์นานเดซ, อิลคาย กุนโดกัน – ริยาด มาห์เรซ, เควิน เดอ บรอยน์, ฟิล โฟเด้น – แบร์นาร์โด้ ซิลวา (กาเบรียล เฆซุส น.59)

เทรนเนอร์ : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

ดอร์ทมุนด์ (4-3-3) : มาร์วิน ฮิตซ์ – มาเตอู โมเรย์ (โธมัส เมอนิเย่ร์ น.81), มานูเอล อคานจี, มัตส์ ฮุมเมลส์, ราฟาแอล เกร์เรยโร่ – จู๊ด เบลลิงแฮม, เอ็มเร่ ชาน, มาห์มูด ดาอูด (โธมัส เดลานี่ย์ น.81) – อันส์การ์ คเนาฟฟ์ (จิโอวานนี่ เรย์นา น.63), มาร์โก รอยส์, เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์

เทรนเนอร์ : เอดิน เทอร์ซิช (รักษาการ)
ผู้ตัดสิน : โอวิดิอู ฮาเตกาน (โรมาเนีย)

เป๊ป กวาร์ดิโอ่ พาแมนซิตี้เข้ารอบมาได้อย่างสบายๆด้วยประตูรวม 4-0 ก่อนอัดเลสเตอร์ไม่ยั้งในเเกมส์ล่สุดจบสกอร์ที่ 2-0 เป็นการคว้าชัยชนะติดกันถึง 5 นัดติด พาทีมเข้ารอบมาแบบเท่ๆ ในส่วนของดอร์ทมุนด์นั้นก็มีของดีไม่แพ้กัน เพราะตั้งแต่ เอดิน เทอร์ซิซ เข้ารักษาการแทน ก็พาทีมเข้ารอบมาด้วยประตูรวม 2 นัด 5-4 ก่อนแพ้แฟร้งค์เฟิร์ต 1-2 ในเกมการแข่งขันล่าสุด

ใน 7 นาทีแรกดอร์ทมุนด์เปิดเกมได้อย่างน่าสนใจก่เมื่อ เออร์ลิง ฮาแลนด์ ส่งต่อให้ จู๊ด เบลลิงแฮม สอดมารับก่อนสับหนี ไคล์ วอล์คเกอร์ ได้ช่องอัดด้วยซ้ายติดเซฟ เอแดร์ซอน โมราเอส ตบทิ้งออกมาแบบหวุดหวิดเล่นเอาเป๊ป ถึงกับหน้าถอดสีกันเลยทีเดีนส

แต่แล้วนาทีที่ 19 “แมนซิตี้” ก็เร่งเครื่องตามมาติดๆไม่ปล่อยช่องว่างให้ได้ผิดอีกทำประตูมาได้ 1-0 จากความผิดพลาดของ เอ็มเร่ ชาน จ่ายบอลพลาดและเป็น เควิน เดอ บรอยน์ พาสวนขึ้นมาแทงออกซ้ายให้ ฟิล โฟเด้น ปาดเข้าในแรงไปเสาไกลถึง ริยาด มาห์เรซ หักเข้ากลางอีกรอบและเป็น เดอ บรอยน์ สอดมาตั้งเท้าแปเข้าไปไม่เหลือ

นาทีที่ 24 ดอร์ทมุนด์ ได้เสียวบ้างคราวนี้เป็น โรดรี้ เอร์นานเดซ เสียบอลหน้าหน้ากรอบเขตโทษโดน เออร์ลิง ฮาแลนด์ ดักก่อนไหลมาเข้าทาง ราฟาแอล เกร์เรยโร่ ยกข้ามแนวรับให้ มาร์โก รอยส์ สอดมาเกือบได้ยิงเสียดายแรงไปถึง เอแดร์ซอน โมราเอส
ต่อมานาทีที่ 29 จากฟรีคิกทางขวาของ เควิน เดอ บรอยน์ ปั่นบอลเข้าเขตโทษกระดอนมาเสาไกลจากจังหวะนี้ เอ็มเร่ ชาน ยกเท้าดีดส้นไปโดนหัวเข่า โรดรี้ เอร์นานเดซ ร่วงลงไปในเขตโทษ ผู้ตัดสิน ชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนขอออกมาดู วีเออาร์ และเปลี่ยนใจให้เกมดำเนินต่อไป
7 นาทีต่อมาจากฟรีคิกเกือบ 30 หลาทางซ้ายของ ฟิล โฟเด้น ปั่นบอลโค้งตกพื้นเด้งมาแฉลบ รูเบน ดิอ๊าส เปลี่ยนทางไปตรงตัว มาร์วิน ฮิตซ์ ยืนตำแหน่งดีรับเอาไว้ได้

นาทีต่อมา “เสือเหลือง” หวิดตีเสมอ ราฟาแอล เกร์เรยโร่ ยกบอลขึ้นมาแรงไปถึง เอแดร์ซอน โมราเอส ออกมานอกเส้นแต่จังหวะเคลียร์ช้าโดน จู๊ด เบลลิงแฮม โฉบมาฉกไปจากเท้าโชคดี ผู้ตัดสิน มองว่าเป็นการฟาวล์
ท้ายครึ่งแรก เจ้าถิ่น โหมหนัก รูเบน ดิอ๊าส วางบอลยาวข้ามแนวรับให้ ฟิล โฟเด้น พาลากเข้าเขตโทษก่อนยัดด้วยซ้ายมุมแคบติดเซฟ มาร์วิน ฮิตซ์ ตบทิ้งได้ทันแต่ก็มีธงล้ำหน้ายกขึ้นมาจากข้างสนาม

หมดครึ่งเวลาแรก แมนฯ ซิตี้ 1 ดอร์ทมุนด์ 0

นาทีที่ 48 ดอร์ทมุนด์ พลาดโอกาสทองจากความแข็งแกร่งของ เออร์ลิง ฮาแลนด์ หลุดกับดักล้ำหน้าเบียดเอาชนะ รูเบน ดิอ๊าส พาเข้าเขตโทษแต่จังหวะหักข้อด้วยซ้ายติดเท้า เอแดร์ซอน โมราเอส เซฟเอาไว้ได้

นาทีที่ 65 “เรือใบสีฟ้า” พลาดอย่างเหลือเชื่อจากบอลทางขวาของ เควิน เดอ บรอยน์ หลุดขึ้นมาได้ช่องตบย้อนเข้าในถึง ฟิล โฟเด้น ตั้งเท้าแปด้วยซ้ายหน้ากรอบ 6 หลาไปตรงตัว มาร์วิน ฮิตซ์

15 นาทีสุดท้าย แมนฯ ซิตี้ เร่งเครื่องหาประตูเพิ่มเป็น เควิน เดอ บรอยน์ แหวกหนีแนวรับ ดอร์ทมุนด์ ก่อนตั้งป้อมอัดด้วยขวาหน้ากรอบ 18 หลาบอลเรียดผ่านมือ มาร์วิน ฮิตซ์ หลุดเสาไกลนิดเดียว

จากจังหวะต่อเนื่องคราวนี้ เควิน เดอ บรอยน์ ถอยมาตั้งเกมแทงขึ้นมาให้ ฟิล โฟเด้น ตะบันด้วยซ้ายเสียดายไปตรงตัว มาร์วิน ฮิตซ์ รับหลุดมือก่อนตามมาตะปปได้ทัน

นาทีที่ 84 ดอร์ทมุนด์ มาตามตีเสมอ 1-1 จากบอลกลางสนาม จู๊ด เบลลิงแฮม ฝากให้ เออร์ลิง ฮาแลนด์ ตวัดเร็วต่อให้ มาร์โก รอยส์ สอดเข้าเขตโทษเอียงตัวซัดด้วยขวาผ่าน เอแดร์ซอน โมราเอส ตุงตาข่าย

สุดท้ายนาทีที่ 90 “เรือใบสีฟ้า” มาได้ประตูชัย 2-1 จนได้ เควิน เดอ บรอยน์ วางบอลยาวลึกมาเสาไกลถึง อิลคาย กุนโดกัน แปะต่อให้ ฟิล โฟเด้น ตวัดด้วยซ้ายตามน้ำไม่ถึง 5 หลาเข้าไปไม่พลาด

หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม แมนฯ ซิตี้ 2 ดอร์ทมุนด์ 1

Facebook Comments Box

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here