ทั้ง ลิเวอร์พูล และ แมนฯ ยูไนเต็ด ต่างส่งสองผู้เล่นนอกสายตาเข้ามาติดทีมยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์นี้ นั่นก็คือ ดิว็อค โอริกี้ และ เฟร็ด ส่วนคนอื่น ๆ มีใครมาเคียงข้างบ้าง ไปดูกันได้เลย
ผู้รักษาประตู : เอแดร์ซอน (แมนฯ ซิตี้)

เอแดร์ซอน เป็นนายด่ายที่ใช้เท้าได้ดีเอามาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณหน้าปากประตูตัวเอง แต่น่าเสียดายที่เกมนี้เจ้าตัวไม่สามารถเก็บคลีนชีตได้

กองหลัง : เอซรี่ คอนซ่า (แอสตัน วิลล่า)

Aston Villa’s Ezri Konsa celebrates scoring their side’s second goal of the game during the Premier League match at Villa Park, Birmingham. Picture date: Sunday December 5, 2021. (Photo by Nick Potts/PA Images via Getty Images)

เหมาสองประตูพา “สิงห์ผยอง” พลิกแซงเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ แม้ประตูแรกจะเกิดจากความไม่ตั้งใจที่ เอมิเลียโน่ บูเอนเดีย โหม่งมาแฉลบ ทว่าสกอร์ที่สอง เจ้าตัวทำได้ยอดเยี่ยมจากการโขกลูกเตะมุม

กองหลัง : ดาวินซอน ซานเชซ (สเปอร์ส)

LONDON, ENGLAND – DECEMBER 05: Davinson Sanchez of Tottenham Hotspur scores the 2nd goal past Tim Krul of Norwich City during the Premier League match between Tottenham Hotspur and Norwich City at Tottenham Hotspur Stadium on December 05, 2021 in London, England. (Photo by Tottenham Hotspur FC/Tottenham Hotspur FC via Getty Images)

พลิกฟอร์มการเล่นจากหลังมือเป็นหน้ามือ จากเกมก่อนหน้านี้ในศึก ยูฟ่า คอนเฟเรนซ์ ลีก ที่ ซานเชซ ทำผลงานออกทะเล โดยเกมถล่ม นอริช เจ้าตัวเติมเกมบุกขึ้นมาทำประตูได้จากจังหวะลูกเตะมุม

กองหลัง : จามาล ลาสเซลล์ส (นิวคาสเซิ่ล)

กัปตัน “สาลิกาดง” มีส่วนสำคัญที่พาต้นสังกัดเก็บคลีนชีตเป็นเกมแรกของซีซั่น และที่สำคัญที่สุดคือการประเดิมคว้าชัยบนเวที พรีเมียร์ลีก ได้เสียที

กองกลาง : ราฮีม สเตอร์ลิง (แมนฯ ซิตี้)

กลับมาได้โอกาสลงเป็นตัวจริงให้ต้นสังกัดต่อเนื่อง และเริ่มมีส่วนกับประตูมากขึ้น โดยเกมนี้ สเตอร์ลิง ก็มีชื่อขึ้นสกอร์บอร์ด

กองกลาง : แบร์นาร์โด้ ซิลวา (แมนฯ ซิตี้)

Manchester City’s Bernardo Silva celebrates scoring their side’s third goal of the game during the Premier League match at Vicarage Road, Watford. Picture date: Saturday December 4, 2021. (Photo by Tess Derry/PA Images via Getty Images)

ไม่มีใครสงสัยในฝีเท้าของดาวเตะโปรตุกีส อีกต่อไป แบร์นาร์โด้ ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักในการทำสกอร์ของ แมนฯ ซิตี้ และถึงตอนนี้ เจ้าตัวยิงไปแล้ว 7 ประตู ซึ่งเป็นจำนวนมากสุดที่เขาทำได้ต่อฤดูกาล เทียบเท่ากับตอนซีซั่น 2018/19 ทั้งปี

กองกลาง : เฟร็ด (แมนฯ ยูไนเต็ด)

MANCHESTER, ENGLAND – DECEMBER 05: Fred of Manchester United celebrates scoring a goal to make the score 1-0 with Alex Telles (R) during the Premier League match between Manchester United and Crystal Palace at Old Trafford on December 5, 2021 in Manchester, England. (Photo by Ash Donelon/Manchester United via Getty Images)

เหมือนกลายเป็นคนละคนนับตั้งแต่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา อำลาทีมไป โดยยอดแข้งแซมบ้า รายนี้มีบทบาททั้งรุกและรับ ซึ่งสิ่งที่สำคัญคือการทำประตูให้ “ปีศาจแดง” คว้าชัยเหนือ คริสตัล พาเลซ

กองกลาง : จาร์รอด โบเว่น (เวสต์แฮม)

นี่คือคนที่พา เวสต์แฮม พลิกจากความพ่ายแพ้สู่ชัยชนะ ทั้งประตูตีเสมอ และเล่นงาน เอดูอาร์ เมนดี้ จนเสียผู้เสียคน

กองหน้า : ริชาร์ลิซอน (เอฟเวอร์ตัน)

ใส่ความพยายามเต็มที่ และพยายามวิ่งไล่กวดเพื่อนำบอลมาให้ทีมกลับมาครอบครอง สุดท้าย ริชาร์ลิซอน ก็มีชื่อทำประตูหลังก่อนหน้านี้ถูกริบประตูถึงสองครั้งจากจังหวะล้ำหน้า

กองหน้า : นีล โมเปย์ (ไบรท์ตัน)

ฮีโร่ของ “เดอะ ซีกัลส์” สองเกมติด พังประตูตีเสมอพาทีมแบ่งแต้มในช่วงทดเวลาบาดเจ็บอีกครั้ง

กองหน้า : ดิว็อค โอริกี้ (ลิเวอร์พูล)

WOLVERHAMPTON, ENGLAND – DECEMBER 04: Liverpool’s Divock Origi is mobbed by team mates Mohamed Salah and Trent Alexander-Arnold on scoring his side’s first goal during the Premier League match between Wolverhampton Wanderers and Liverpool at Molineux on December 4, 2021 in Wolverhampton, England. (Photo by Andrew Kearns – CameraSport via Getty Images)

ลงมาในฐานะตัวสำรอง และสวมบท “ซูเปอร์ ซับ” พา ลิเวอร์พูล ควักชัยชนะจาก โมลินิวซ์ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เหมาะสมทุกประการที่ โอริกี้ ได้เข้ามาอยู่ในทีมชุดนี้

Facebook Comments Box

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here